Message from Chairman
ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทย ในช่วงปี2565 และ ปี2566 มีแนวโน้มฟื้นตัว โดยการลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตที่ขยายตัวตามภาวะเศรษฐกิจจะหนุนความต้องการซื้อหรือเช่าที่ดิน ปัจจัยหนุนจาก
(1) การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐโดยเฉพาะในพื้นที่ EEC ที่มีการพัฒนาเชื่อมโยงเต็มรูปแบบมากขึ้น ภายใต้แผนการพัฒนาระยะที่2 (ปี2566-2570) อาทิโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) โครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุดและแหลมฉบัง ระยะที่3 โครงการสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการหนุนศักยภาพการเติบโตของนิคมฯ ในภาคตะวันออก ทำให้เกิดการขยายตัวของการลงทุนภาคเอกชนมากขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว
(2) ความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังจากคลายความกังวลเกี่ยวกับ COVID-19 และสงครามรัสเซีย-ยูเครนคลี่คลายลง โดยการเปิดประเทศเต็มรูปแบบเอื้อให้นักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาดำเนินกิจกรรมต่างๆ สะดวกมากขึ้น เช่น การเดินทางเพื่อสำรวจสถานที่สร้างโรงงาน การเจรจาธุรกิจ การเซ็นสัญญา เป็นต้น (การสำรวจและประเมินสภาพแวดล้อมของการลงทุนโดยรอบจากพื้นที่จริงถือเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนการตัดสินใจลงทุน) ขณะที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในประเทศมีแนวโน้มทยอยฟื้นตัวตามทิศทางเศรษฐกิจ
(3) ผู้ประกอบการต่างชาติมีแนวโน้มย้ายขยายฐานการผลิตมายังประเทศไทยมากขึ้น เพื่อลดผลกระทบจากความเสี่ยงของการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Disruption) จากภาวะความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่คาดว่าจะยังยืดเยื้อ และความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างจีนกับไต้หวันที่ยังมีต่อเนื่อง ซึ่งไทยน่าจะได้รับผลประโยชน์จากปัจจัยดังกล่าวด้วย เนื่องจากมีข้อได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์ในการเป็นฐานการผลิตและศูนย์กลางทางการค้าในภูมิภาคอาเซียน และมีการเชื่อมโยงด้านโลจิสติกส์ทั้งทางถนนและระบบราง ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดการลงทุนใหม่
ในปี2566 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ยอดขายที่ดินที่ลูกค้าเข้ามาเซ็นสัญญาซื้อขายที่ดิน มากกว่า 2,000 ไร่ ยอดโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินให้กับลูกค้า 1,396 ไร่ ส่งผลทำให้มียอดรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์มากกว่า 5,000ล้านบาท กำไรสุทธิรวม 1,096 ล้านบาท ทางคณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมตินำเสนอการจ่ายเงินปันผลประจำปีสำหรับผลประกอบการปี2566 ต่อผู้ถือหุ้นในการประชุมสามัญประจำปี2567ในอัตราหุ้นละ0.40 บาท
บริษัทมีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม สิ่งแวดล้อมและสังคม
ในนามของคณะกรรมการบริษัทฯ ขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ให้ความเชื่อมั่นและสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา